จากรายงานที่บอกว่าประชากรโลกเพิ่มขึ้นทุกๆปี เช่นตายเฉลี่ย56ล้าน เพิ่มขึ้น80ล้านคนต่อปี
และรายงานข้างล่างนี้อีก ทำให้ผมสงสัยว่า เมื่อก่อนประชากรน้อยๆ วิญญาณก็ต้องน้อยๆ แล้วต่อมาประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วไปเอาวิญญาณจากไหนมาเกิดเป็นมนุษย์ ทำให้มีประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
รายงานจาก
http://blog.eduzones.com/wigi/82925สถาบันสำรวจประชากรในฝรั่งเศสระบุ ประชากรโลกจะแตะที่ระดับ 7,000 ล้านคนในปีนี้ ด้วยประชากรในแอฟริกาเพิ่มขึ้น ชดเชยการเกิดน้อยลงในประเทศอื่น และไม่เกินปี 2593 อินเดียจะกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก แซงหน้าจีนแชมป์เก่าในปัจจุบัน
ผลการศึกษาของสถาบันประชากร ศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส (ไอเอ็นอีดี) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จำนวนประชากรโลกจะเพิ่มเป็น 7,000 ล้านคนในปลายปีนี้ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากรในแอฟริกา ได้ชดเชยอัตราการเกิดที่ลดลงในประเทศอื่น ๆ
โดยสถาบันประชากรศาสตร์ฯทำนายอีกว่า จำนวนประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนกว่าจะเสถียรที่ระหว่าง 9,000-10,000 ล้านคนทั่วโลกภายในสิ้นศตวรรษนี้ และจากประชากร 6,000 ล้านคน ที่มีการประเมินเมื่อปี 2542 ช่องว่างระหว่างอัตราการเกิดและการตายทั่วโลก ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ประชากรโลกเพิ่มอีกพันล้านคนในช่วงระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ สถาบันไอเอ็นอีดี คาดหมายต่อไปว่า ในอีก 14 ปีข้างหน้า ประชากรโลกอาจแตะที่ระดับ 8,000 ล้านคน
ขณะที่จีนยังมีประชากรมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยจำนวน 1,330 ล้านคน ตามมาด้วยอินเดีย มีประชากร 1,170 ล้านคน รองลงมาก็มีสหรัฐ, อินโดนีเซีย, บราซิล, ปากีสถานและไนจีเรีย ซึ่งสถาบันไอเอ็นอีดีระบุว่า นับตั้งแต่ขณะนี้ไปจนถึงปี 2593 อินเดียจะกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ขณะที่นโยบายลูกคนเดียวของรัฐบาลจีน จะทำให้ประชากรแดนมังกรลดลง
อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขโดยรวมยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่อัตราการเพิ่มขึ้นนั้นลดลงแล้ว โดยในปี 2554 อัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรอยู่ที่ร้อยละ 1.1 ซึ่งตกลงจากร้อยละ 2 เมื่อ 50 ปีก่อน ทั้งนี้เนื่องจากอัตราการเกิดชะลอตัว โดยผู้หญิง 1 คนมีลูก 2.5 คน ลดลงถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับตัวเลขที่มีการบันทึกไว้ในปี 2493 กระนั้นในแต่ละพื้นที่ก็มีตัวเลขที่แตกต่างกันมาก โดยในแอฟริกา เฉลี่ยหญิง 1 คนมีลูก 4.7 คน แต่ในยุโรปหญิงมีลูกอยู่ที่ 1.6 คนเท่านั้น.
มนุษย์เราตายแล้วเกิดใหม่จริงหรือ หรือเป็นเพียงกุศโลบายเพื่อควบคุมมนุษย์หรือเพื่อให้มนุษย์คิดดีทำดี{แตกประเด็นจาก Y13070668}
และรายงานข้างล่างนี้อีก ทำให้ผมสงสัยว่า เมื่อก่อนประชากรน้อยๆ วิญญาณก็ต้องน้อยๆ แล้วต่อมาประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วไปเอาวิญญาณจากไหนมาเกิดเป็นมนุษย์ ทำให้มีประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
รายงานจาก http://blog.eduzones.com/wigi/82925
สถาบันสำรวจประชากรในฝรั่งเศสระบุ ประชากรโลกจะแตะที่ระดับ 7,000 ล้านคนในปีนี้ ด้วยประชากรในแอฟริกาเพิ่มขึ้น ชดเชยการเกิดน้อยลงในประเทศอื่น และไม่เกินปี 2593 อินเดียจะกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก แซงหน้าจีนแชมป์เก่าในปัจจุบัน
ผลการศึกษาของสถาบันประชากร ศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส (ไอเอ็นอีดี) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จำนวนประชากรโลกจะเพิ่มเป็น 7,000 ล้านคนในปลายปีนี้ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากรในแอฟริกา ได้ชดเชยอัตราการเกิดที่ลดลงในประเทศอื่น ๆ
โดยสถาบันประชากรศาสตร์ฯทำนายอีกว่า จำนวนประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนกว่าจะเสถียรที่ระหว่าง 9,000-10,000 ล้านคนทั่วโลกภายในสิ้นศตวรรษนี้ และจากประชากร 6,000 ล้านคน ที่มีการประเมินเมื่อปี 2542 ช่องว่างระหว่างอัตราการเกิดและการตายทั่วโลก ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ประชากรโลกเพิ่มอีกพันล้านคนในช่วงระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ สถาบันไอเอ็นอีดี คาดหมายต่อไปว่า ในอีก 14 ปีข้างหน้า ประชากรโลกอาจแตะที่ระดับ 8,000 ล้านคน
ขณะที่จีนยังมีประชากรมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ด้วยจำนวน 1,330 ล้านคน ตามมาด้วยอินเดีย มีประชากร 1,170 ล้านคน รองลงมาก็มีสหรัฐ, อินโดนีเซีย, บราซิล, ปากีสถานและไนจีเรีย ซึ่งสถาบันไอเอ็นอีดีระบุว่า นับตั้งแต่ขณะนี้ไปจนถึงปี 2593 อินเดียจะกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ขณะที่นโยบายลูกคนเดียวของรัฐบาลจีน จะทำให้ประชากรแดนมังกรลดลง
อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขโดยรวมยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่อัตราการเพิ่มขึ้นนั้นลดลงแล้ว โดยในปี 2554 อัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรอยู่ที่ร้อยละ 1.1 ซึ่งตกลงจากร้อยละ 2 เมื่อ 50 ปีก่อน ทั้งนี้เนื่องจากอัตราการเกิดชะลอตัว โดยผู้หญิง 1 คนมีลูก 2.5 คน ลดลงถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับตัวเลขที่มีการบันทึกไว้ในปี 2493 กระนั้นในแต่ละพื้นที่ก็มีตัวเลขที่แตกต่างกันมาก โดยในแอฟริกา เฉลี่ยหญิง 1 คนมีลูก 4.7 คน แต่ในยุโรปหญิงมีลูกอยู่ที่ 1.6 คนเท่านั้น.